วันเสาร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2560

100 วลีอังกฤษใช้ในบทสนทนาได้แบบฝรั่ง

หลายๆคนอยากจะฝึกภาษาอังกฤษโดยการสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ
แต่ทราบหรือไม่ว่าการสนทนาภาษาอังกฤษที่ดี หรือที่เจ้าของภาษาใช้กันทั่วไป
มันมีการใช้วลีและสำนวนที่คุณไม่สามารถแปลตรงตัวออกมาได้ เพราะนั่นจะทำให้
ความหมายเปลี่ยนไป บทความนี้นำเสนอวลีภาษาอังกฤษที่ทำให้คุณเข้าใจสิ่งที่
คู่สนทนาของคุณพูดได้ถูกต้อง นอกจากนั้น คุณยังสามารถนำมันไปใช้เพื่อทำให้
การสนทนาของคุณฟังดูเป็นธรรมชาติ มีชีวิตชีวา
หรือตรงกับจุดประสงค์ของคุณมากขึ้น

การทักทายและบอกลา

How are things?
How is it going?
เป็นไงบ้าง?
How's life?ชีวิตเป็นไงบ้าง?
Long time no see!ไม่เจอกันนานเลยนะ!
What are you up to?
What have you been up to?
ทำอะไรอยู่เหรอ?
See you soon!เจอกันเร็วๆนี้นะ!
See you later!ไว้เจอกันทีหลังนะ!
Till next time!เจอกันคราวหน้านะ!
Good luck!โชคดีล่ะ!
Take care!ดูแลตัวเองด้วย!
Talk to you later!ไว้คุยกันทีหลังนะ!
Until we meet again!แล้วพบกันใหม่นะ!
Have a nice day!ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะ!
Have a good weekend!สุขสันต์วันหยุดนะ
Have a safe trip!เดินทางปลอดภัยนะ
Say hi to…ฝากสวัสดี … (ฝากให้คนๆหนึ่งกล่าวทักทาย
/สวัสดีคนที่คุณคิดถึงแทนคุณ)
Send my love to…ส่งความรัก(คำอวยพร)ให้ … (คนที่คุณรัก
หรือคิดถึงเช่นญาติ คนรัก หรือเพื่อน)

คำแนะนำ

In short
In brief
In a word
พูดสั้นๆว่า
As far
As to
เกี่ยวกับ..., ในเรื่องของ...
(ใช้เริ่มต้นในการกล่าวถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง)
Not to mention...
What’s more, ...
นี่ยังไม่ได้พูดถึง...
ยิ่งไปกว่านั้น, ...
First of all
Above all
อย่างแรกเลยนะ
By the wayอนึ่ง, อีกประการหนึ่ง
After allสุดท้ายแล้ว, นอกจากนั้น
Just for the recordเพื่อให้คุณรู้,...
And so on and so forthเป็นต้น
If I’m not mistakenถ้าฉัน(คิด/ตัดสินใจ)ไม่ผิด
In other wordsกล่าวอีกนัยหนึ่ง,
กล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า
On the contraryโดยตรงกันข้าม
The thing isประเด็นก็คือว่า
So as to
So that
เพื่อให้
Either wayอยู่แล้ว, อย่างไรก็ตาม
As a ruleโดยทั่วไป
As well asตลอดจน
All the sameไม่ต่างกัน, เหมือนๆกันทั้งหมด
On one handด้านหนึ่งนั้น, เรื่องหนึ่งนั้น
On the other handในทางกลับกัน
Such asเช่น
As I said beforeที่ฉันได้กล่าวไปแล้ว
Believe it or not, butเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่...
If I remember rightly
If I recall correctly
ถ้าฉันจำไม่ผิด

แสดงความไม่เห็นด้วยหรือตกลง

Perhapsอาจจะ, บางที
Of course
Sure
แน่นอน, ชัวร์
Definitely
Absolutely
อย่างแน่นอน, แน่อยู่แล้ว
Naturallyโดยปกติแล้ว
Probablyน่าจะ, อาจจะ
You are rightคุณ(พูด/ทำ/คิด)ถูก
It can hardly be soมันไม่น่าที่จะเป็นกรณีนี้,
มันไม่น่าที่จะเป็นอย่างนั้น
Very wellดีมาก
Most likelyมีแนวโน้มที่จะเป็นอย่างนั้น
Most unlikelyไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น
Not a bitไม่แม้แต่นิดเดียว
I believe so
I suppose so
ฉันเชื่อว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้นล่ะ
I doubt itฉันสงสัยว่ามันจะใช่เหรอ/จะเป็นไปได้เหรอ?
(ฉันว่าไม่น่าจะใช่/เป็นไปได้หรอก)
No wayไม่มีทาง, เป็นไปไม่ได้
Exactly so
Quite so
อย่างนั้นแหละ, อย่างนั้นเลย
I agree with youฉันเห็นด้วยกับคุณ
I’m afraid you are wrongฉันเกรงว่าคุณน่ะแหละที่ผิด,
ฉันว่าคุณ(พูด/ทำ/คิด)ผิด
I’m afraid soฉันก็เกรงว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ
I’m not sureฉันไม่แน่ใจอะ
I don’t think soฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ
In a way
To a certain extent
ในความรู้สึกแล้ว
No doubtอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
I’m in
I’m game
ฉันเอาด้วย (ในการตอบสนองต่อคำเชิญที่จะไปที่ใด
หรือทำอะไรสักอย่าง)
I think I’ll passฉันว่าฉันไม่เอาดีกว่า, ฉันไม่เอาด้วยหรอก(ในการปฏิเสธ
ต่อคำเชิญที่จะไปที่ใดหรือทำอะไรสักอย่าง)
Deal!ตกลง!
It’s a great idea!เป็นความคิดที่เยี่ยมไปเลย!
Not a very good ideaเป็นความคิดที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ
I'm looking forward to itฉันคอยอยู่นะ

 ประโยคแสดงความสุภาพ

I’m so sorry!ฉันขอโทษจริงๆค่ะ!
I beg your pardon!กระผม/ดิฉันขอโทษครับ/ค่ะ!
I’m sorry, I can’t.ขอโทษนะ ฉันทำไม่ได้หรอก
Sorry, I meant well.ขอโทษ ฉันแค่หวังดี (ฉันไม่ได้ตั้งใจ -
กรณีที่คุณหวังดีอยากจะช่วย
แต่ผลลัพธ์ออกมาไม่ดี ผิดคาด)
It’s very kind of you!คุณใจดีมากเลย!, คุณมีน้ำใจจัง!
Thank you anyway!ยังไงก็ขอบคุณนะ!
Thank you in advance!ขอบคุณล่วงหน้านะ!
Don’t mention it!ไม่เป็นไร!, อย่าไปพูดถึงมันเลย ไม่เป็นไร!
May I help you?ให้ฉันช่วยไหมคะ?
No problem!
That’s ok!
ไม่เป็นไร!, โอเคค่ะ ไม่เป็นไร!
Don’t worry about it!ไม่ต้องเป็นห่วงนะ!
This way, please!โปรดมาทางนี้เลยค่ะ
After you!เชิญคุณก่อนเลยค่ะ

การตอบรับการสนทนา

What’s the matter?
What’s going on?
What’s happening?
What’s happened?
เกิดอะไรขึ้น?
What’s the trouble?มีปัญหาอะไรเหรอ?
How was it?แล้วมันเป็นอย่างไรบ้าง? (มันดีไหมหรือยังไง?)
Did I get you right?ฉันเข้าใจนายถูกไหม?
Don’t take it to heart.ใจเย็น
I didn’t catch the last word.เมื่อกี้พูดว่าไงนะ (คำสุดท้ายที่พูด
พูดว่าไรนะ?)
Sorry, I wasn’t listening.ขออภัย เมื่อกี้ผมไม่ได้ฟัง
It doesn’t matter.มันไม่สำคัญหรอก
It is new to me.นี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับฉันเลย
Let's hope for the best.ร่วมกันหวังเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกันเถอะ
May I ask you a question?ฉันขอถามคำถามหน่อยได้ไหมคะ?
Next time lucky!ขอให้โชคดีในครั้งต่อๆไป!
Oh, that. That explains it.อืม นั่นช่วยอธิบายทุกอย่างเลย
(นั่นทำให้เข้าใจทุกอย่าง)
Say it again, please.ได้โปรดพูดอีกครั้งได้ไหมคะ?
So that’s where the trouble lies!นั่นคือปัญหาไงล่ะ!
Things happen.อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด,
อะไรก็เกิดขึ้นได้
What do you mean?คุณหมายความว่าไง?
Where were we?เมื้อกี้พูดถึงไหนแล้วนะ?
Were you saying?เมื้อกี้คุณพูดอะไรอยู่หรือเปล่า?
I’m sorry, I didn’t catch you.ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ยินที่คุณพูด
Lucky you!ขอให้คุณโชคดี!
Good for you!ดี(สำหรับคุณ)แล้วล่ะ!
I’m so happy for you!ฉันมีความสุขสำหรับคุณ
(ฉันดีใจที่เห็นคุณมีความสุข
/ได้รับสิ่งที่ดี)
What do you know!คุณจะไปรู้อะไรล่ะ!
การที่คุณพยายามที่จะพูดภาษาอังกฤษกับใครสักคนในชีวิตประจำวันเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะมันจะทำให้คุณมีความกล้าในการใช้ภาษาอังกฤษ นอกจากนั้นยังทำให้คุณเรียนภาษาอังกฤษได้อย่างสนุกกว่าเดิมอีกด้วย การเรียนภาษาอังกฤษจะส่งผลดีที่สุดให้คุณเมื่อคุณเรียนรู้และนำมันมาใช้ ไม่ใช่แค่เรียนเพื่อสอบเท่านั้น ดังนั้นหลังจากเรียนเรื่องใหม่ๆมาในแต่ละวัน หากคุณลองนำสิ่งที่คุณได้เรียนไปใช้ คุณจะพบว่าการเรียนภาษาอังกฤษไม่ได้ยากอย่างที่คุณคิดเลย

วันศุกร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2560

คำในภาษาอังกฤษที่..คนไทยชอบเผลอเติม s

ค่ะ คนไทยสมัยนี้เป็นโรค S syndrome กันไปซะแล้ว เจอคำไหนไม่แน่ใจ ไม่ชัวร์ กรูเติม s เอามันส์ไว้ก่อนนน กันพลาด! ..แต่ที่ไหนได้ เมิงพลาดแล้ว (55) ลองมาดูกันว่าคุณเคยเผลอเติม s ให้คำเหล่านี้มั่ง
Anyway
*********
เจอบ่อยมาก ๆ เลยนะคะ ไอ้คำว่า Anyways เนี่ยย จริง ๆ แล้วไม่ต้องเติม s ให้มันนะคะ (บางทีแม้กระทั่งฝรั่งเองก็พูดผิด ๆ เหมือนกัน) ที่จริงแล้ว Anyway เป็น correct form ที่ถูกต้องอยู่แล้วนะจ๊ะ

Stuff*********
พวกอีลูกช่างเติม! คำนี้น่าจะเห็นบ่อยสุด เห็นตามสเตตัสคนไทยเยอะจริง ๆ นะ I have so much stuffs to do. blah blah blah… (มีหลายอย่างต้องทำเลย บลา บลา บลา) จะสังเกตเห็นว่า คนไทยชอบเติม s ที่ stuff ใช่ไหม? จริง ๆ แล้วไม่ต้องเติมนะคะ stuff อ่ะ ถูกอยู่แล้วววว

Staff
*********
staff ที่แปลว่า พนักงาน ก็เช่นกัน เห็นชอบเติมเป็น staffs … เหมือนกัน จะ 1 คน 2 คน หรือกี่คนก็ staff หมดจ้า
Information***********
บางคนมาเลย Information ก็คือข้อมูล ข่าวสารอันเดียว ถ้าหลาย ๆ อันใส่ s สิ (เอ้อ ถูกที่แต่ผิดเวลาไปนิดค่ะ) – คำนี้ก็ไม่ต้องเติมเช่นกัน คำนี้เป็นได้ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ค่ะ เพราะงั้น “All the informations that I gave you are true!” แบบนี้ผิดนะคะ ต้องเป็น All the information that I gave you is true. (ข้อมูลข่าวสารทั้งหมดที่ฉันให้คุณนี่เป็นเรื่องจริงนะเคอะ!)
Advice*********
advice ที่แปลว่า คำแนะนำนี่ก็เห็นเขียนผิดกันเยอะ ไม่มี s นะจ้ะ
He gave me a lot of good advice. (นายคนนี้นี่ให้คำแนะนำเราเยอะมาก ๆ)
ไม่รู้ว่าที่คนไทยชอบเติม s นี่เพราะสับสนกับคำว่า suggestion หรือเปล่า (คำนี้เติม s ได้นะ เป็น suggestions)
เช่น Do you have any advice? (มีคำแนะนำอะไรบ้างมั้ย)
Do you have any suggestions? (มีข้อเสนอแนะอะไรบ้างมั้ย)
ความหมายคล้ายกันค่ะต่างแค่อันนึงเติม s ได้ อันนึงไม่ต้องเติม
Thanks!*********
อันนี้แถมมมม! คำว่า Thanks you. แบบนี้ไม่มีนะจ๊ะ มีแต่ Thank you. แบบนี้ค่ะ แต่ถ้าอยากเติม s ให้พูดว่า Thanks! เฉย ๆ ไม่ต้องมี กิ้ววว เน้อออ
คนมีปัญญา เมื่อรู้แล้ว..มักไม่ผิดรอบสองนะเคอะ