วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563

10 ไอเดียสร้างเป้าหมายในปี 2020 ให้ทุกคนได้นำไปลองปรับใช้ดู

1/1/2020




1. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน

     บ่อยครั้งที่เราไปไม่ถึงเป้าหมายได้นั้น แม้ต่อให้มีเวลาลงมือทำ และตั้งใจมากก็ตาม หนึ่งในสาเหตุใหญ่นั้นก็คือ แต่เป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่ชัดเจน และไม่มีการวางแผนอย่างรอบคอบ

     จากการวิจัยเผยว่า หลังปีใหม่แค่ 6 สัปดาห์เท่านั้น คนกว่า 80 % ล้มเลิกหรือไม่ก็ลืมเป้าหมายไปเลย Marti Hope Gonzales รศ.ด้านจิตวิทยา มหาวิทยาลัยมินนิโซตา ยังเสริมว่า การหาสมุดสักเล่มมาบันทึกเพื่อวางแผนว่าจะทำอะไร เมื่อไหร่ เป็นส่วนช่วยให้เป้าหมายนั้นสำเร็จได้


2.   สร้าง Connection ใหม่ 

     “บางครั้ง การพูดคุยกับคนแปลกหน้าทำให้ฉันรู้สึกสบายใจกว่าคู่ชีวิตซะอีก” ครั้งหนึ่ง Kio Stark นักเขียนสาวเคยเล่าเรื่องราวใน TED Talk ที่ชื่อว่า "Why you should talk to strangersว่าทำไมทุกคนควรรู้จักคนแปลกหน้าให้มากขึ้น เพราะการสร้างมนุษยสัมพันธ์คือส่วนหนึ่งที่ช่วยให้มี “ความกล้า” ที่จะลองออกไปพบผู้อื่นเพื่อเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่คุ้นเคย

     มากไปกว่านั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่ Aspen Ideas Festival ยังบอกอีกว่า ปัจจุบันมีคนเหงาเยอะขึ้น ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตและร่างกาย แม้จะมีเพื่อนมากมายก็ตาม เพราะในบางครั้งการมีเรื่องทุกข์ใจแต่กลับไม่สามารถเล่าให้คนสนิทฟังได้ จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมทุกคนควรสร้าง Connection ใหม่ ๆ เพราะในบางครั้งคนแปลกหน้าที่เราไม่สนิทก็เปิดรับฟังเรื่องราวของเรามากกว่าคนที่สนิท นอกจากนี้เรายังจะได้เรียนรู้มุมมอง และประสบการณ์จากคนในสังคมที่ต่างออกไปอีกด้วย

หรือรับชมได้ที่: https://goo.gl/QEiuVu


3. พัฒนาภาษาที่ 2 

     ในยุคนี้การพูดได้ 2 ภาษาถือว่าน้อยไปซะแล้ว โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่เรียนถึง 3 ภาษาที่โรงเรียน และการเข้ามาของอาเซียนที่มากขึ้น ยิ่งทำให้ต้องพัฒนาภาษาของตัวเองให้ดีขึ้น โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ที่ใครก็ต่างบอกว่ายาก ไม่มีเวลาฝึกฝน ไม่มีเวลาเรียน แต่รู้ไหมว่ายุคนี้เราสามารถฝึกภาษาอังกฤษออนไลน์ที่มีให้เลือกเยอะมาก จนอาจจะเลือกไม่ถูก แต่ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไง เรายินดีให้คำปรึกษา ซึ่งวิธีฝึกที่แนะนำคืออย่างน้อย 20 - 40 นาทีต่อวัน และ 3 - 5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด
เริ่มโดยการฝึก อ่านและฟังไปด้วยในเวลาเดียวกัน สนุก ๆ นะคะ คลิกดูเลย

 White Death  ( มีเนื้อหารวมเป็นเล่ม มี สามเรื่อง สนใจ ติดต่อมาที่Facebook นะคะ


4. เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์

     นอกจากจะทานอาหาร ให้อิ่มท้อง หรือเพื่อความอร่อยแล้ว เรื่องของคุณประโยชน์ก็สำคัญเช่นกัน

     บทความจากนิตยสาร Newsweek ได้เปิดเผยว่า การทานสลัดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งสามารถทำให้สมองของมนุษย์อ่อนเยาว์ลงถึง 11 ปี นอกจากสลัดแล้วเราควรทานปลาให้มากขึ้นเช่นกัน เพราะในปลามีโอเมก้า 3 ที่ช่วยให้เรานอนหลับได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเด็ก ๆ ถ้าทานทุกสัปดาห์ ไอคิวจะสูงขึ้นถึงสี่จุด และลดอัตราการเกิดโรคหัวใจอีกด้วย โดยปลาที่แนะนำให้ทานคือ ปลาทู

5. หยุดทานหลัง 3 ทุ่มสักที

     หลายคนเห็นหัวข้อแล้วต้องเศร้าแน่นอน เพราะฉันนี่แหละชอบกินบุปเฟต์เหลือเกินในยามค่ำคืน แต่รู้หรือไม่ว่า การทานอาหารให้ถูกเวลาก็สำคัญมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาหลัง 3 ทุ่ม เป็นเวลาที่เราควรหยุดทาน เพราะการทานอาหารช่วงดึก ๆ คือสาเหตุของการตามมาของหลายโรค เช่น โรคหัวใจ โรคอ้วน กดไหลย้อน เป็นต้น แต่หากใครหิวจนทนไม่ไหวจริง แนะนำให้ดื่มนมอุ่นใส่น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา เพราะในน้ำผึ้งช่วยให้นอนหลับดีขึ้น


6. เข้านอนให้ไวขึ้น

     ใครอยากสุขภาพดี และอยากลดน้ำหนักง่าย ๆ โดยไม่ต้องทำอะไรมากเลย แค่ “นอนให้ถูกเวลาเท่านั้น” ทุกคนคงได้ยินมาบ่อย ๆ ว่าควรนอน 6 - 8 ชม. แต่จริง ๆ แล้วช่วงอายุ 18 - 64 ปีนั้นควรนอน 7 - 9 ชม.ต่อวัน และเวลาที่ควรเข้านอนในช่วง 21.00 น. - 05.00 น. เพราะในขณะที่นอนหลับไปแล้วนั้นร่างกายจะทำงานได้อย่างเต็มที่ เช่น การฆ่าเชื้อโรค ขจัดสารพิษ ขับถ่ายดีขึ้น โดยเฉพาะถ้าใครอยากผิวสวยหน้าใส ให้ตื่นตี 5 มารับอากาศยามเช้าให้เต็มปอดดูซิคะ เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ปอดทำงานได้อย่างเต็มที่



7. ออกกำลังกายซะบ้าง

     เชื่อว่านี่เป็นเป้าหมายของใครหลายคน และทำได้ยาก ด้วยเหตุผลต่าง ๆ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการออกกำลังกายนั้นมีความสำคัญมากกว่าแค่สุขภาพดีอีกนะ เพราะสำหรับใครที่ออกกำลังกายเป็นประจำ จะมีสมองที่ดี คิดงานได้คล่อง มีความคิดสร้างสรรค์ และยิ่งไปกว่านั้นคือ ช่วยให้ชะลอความแก่ แถมยังความจำดีขึ้นอีกด้วย โดยการออกกำลังกายที่เหมาะสมคือ 20 - 45 นาทีต่อวัน และ 3 - 5 วันต่อสัปดาห์


8. อ่านให้มากขึ้น

     “คนไทยอ่านหนังสือปีละ 8 บรรทัด” ประโยคที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังคงได้ยินอยู่เสมอ ลองใช้เวลาสักนิดต่อวันเพียง 10 - 30 นาทีต่อวัน หันมาอ่านหนังสือให้มากขึ้นกันดีกว่า เพราะการอ่านเป็นสิ่งที่ดีต่อสมอง ช่วยให้มีสมาธิ ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นในการทำงาน โดยการอ่านหนังสือนั้นจะเป็นหนังสืออะไรก็ได้ เช่น หนังสือเรื่องสั้น หนังสือพิมพ์ หรือ หนังสือนวนิยาย เป็นต้น


     นักจิตวิทยาองค์ความรู้ Keith Oatley บอกว่า การอ่านนวนิยายนั้นยังช่วยสร้างทักษะการเข้าสังคมอีกด้วย หรือจะลองฝึกอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเพิ่มทักษะการอ่านให้ดีขึ้น ซึ่งหนังสือที่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น คือ Wonder by R.J. Palacio ที่เคยถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์ ด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ และคำศัพท์ไม่ยากจนเกินไป

 9. ออกไปข้างนอกให้เยอะขึ้น

     การออกไปข้างนอกสูดอากาศที่บริสุทธิ์จากธรรมชาติ ในสวนสาธารณะช่วยทำให้ร่างกายและสมองผ่อนคลาย รวมไปถึงการลดอาการซึมเศร้าได้ โดยเฉพาะหากใครที่ต้องใช้ความคิดในการทำงานมาก ควรพักจากหน้าจอ และหันหน้าเข้าพื้นที่สีเขียวดูบ้าง แต่ถ้าหากได้มีโอกาสไปท่องเที่ยว จะยิ่งช่วยให้ความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นจากการเดินทางไปที่ต่าง ๆ 

     แต่ถ้าสำหรับใครที่ไม่ชอบไปไหนจริง ๆ ขอแนะนำให้ลองใช้เวลากับศิลปะมากขึ้น เช่นการเล่นดนตรี ดูหนัง หรือหัดเขียนบล็อกเก็บบทความหรือเรื่องราวที่ตนเองมีความรู้และทักษะอยากเล่า เหมือนบล็อกนี้ก็ดีนะคะ เพราะการใช้เวลากับศิลปะและการเขียน ก็ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ และยังช่วยลดความตึงเครียดจากเรื่องต่าง ๆ ได้เช่นกันค่ะ


10. เล่น Social Network ให้น้อยลง

     สังคมออนไลน์ ที่ปัจจุบันเปรียบเป็นเหมือนหนึ่งในปัจจัยการดำเนินชีวิตไปแล้วก็ว่าได้ โดยเฉพาะธุรกิจทั้งเก่าทั้งใหม่ต่างก็ต้องปรับตัวกันทั้งนั้น เช่นเดียวกับผู้ใช้ทุกคนที่ควรใช้แต่พอควร ลดลงบ้าง เพราะการเล่น Social Network มาก ๆ นั้นทำให้เสียเวลาในการใช้ชีวิตไปมาก และอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคต่าง ๆ เช่น การถูก Cyber Bully ที่มีผลร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ และสำหรับใครที่นอนไม่ค่อยหลับ นอนดึกดื่น ยิ่งต้องลดการเล่นโซเชียลให้น้อยลง ออกจากโลกออนไลน์ และกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงให้มากขึ้น

     เริ่มคิดออกแล้วใช่ไหมคะว่าปีนี้จะทำอะไรดี!? เพราะทุกคนคงได้ไอเดียในการไปปรับใช้กับเป้าหมายของตัวเองในปีนี้กันแล้ว แต่ทำไมนะทุกปีเลยที่ตั้งใจจะทำอะไรแล้วมันไม่เคยสำเร็จเลย ทุกอย่างล้วนมีสาเหตุที่มาที่ไปกันทั้งนั้น


เรามาดูกันดีกว่าว่าอะไรบ้างที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นเป้าหมายของเรากันนะ


เป้าหมายที่ไม่ชัดเจน - หากอยากไปให้ถึงเป้าหมาย ควรทำให้เป้าหมาย “ชัดเจนและจับต้อง” ได้ก่อนลงมือทำ เช่น แทนที่จะเขียนว่า "ต้องลดพุงให้ได้ในปีนี้" น่าจะเขียนว่า "จะไม่ใส่กางเกง เอวเกิน 34 นิ้ว"
ไม่เขียนเป้าหมาย - ลองหาสมุดสักเล่ม หรือพิมพ์ไว้ในNote ของมือถือก็น่าจะดีกว่าเพื่อช่วย “เตือน” ป้องกันการหลงลืมเป้าหมาย
เป้าหมายเยอะเกิน - เป้าหมายมีหลายข้อได้ แต่ควรลงมือทำทีละข้อ หากสำเร็จแล้วจึงค่อยเริ่มต้นทำข้อถัดไป
เป้าหมายใหญ่เกินไป - ลองปรับซอยเป้าหมายของคุณให้เล็กลงดูไหม แล้วค่อย ๆ เคลียร์ไปทีละนิด
เช่นแทนที่จะเขียนว่าลดนน.ให้ได้ 10 กก.(ทั้งปี) ก็ซอยออกมาต่อเดือน ก็มีทางเป็นไปได้มากกว่า
ไม่กำหนดเวลา - การจัดสรรเวลาให้กับเป้าหมายช่วยเพิ่มความตั้งใจที่จะลงมือทำได้มากขึ้น
ขาดการวางแผน - ลองเขียนเป็นหัวข้อ ๆ ให้กับเป้าหมายดู วางแผนให้เป็นระเบียบมากขึ้น
ขาดแรงจูงใจ - หาหรือลองสร้างกำลังใจและแรงจูงใจคือสิ่งสำคัญ ที่จะเพิ่มความพยายามมากขึ้นได้
ขาดผู้สนับสนุน - ชวนเพื่อน หรือใครสักคนมาร่วมอุดมการณ์ในการคว้าเป้าหมายไปพร้อม ๆ กันดูนะคะ
แนะนำให้ตั้งกลุ่มไลน์ เพื่อนที่มี ปณิธาน เหมือนกัน ก็น่าจะทันยุคมากกว่า ถูกเพื่อน แดกดันมั่งก็ไม่เป็นไร เพื่อนที่ดี ย่อมให้กำลังใจเรานะคะ

     ถึงตรงนี้เราหวังว่าทุกคนจะได้ทบทวนตัวเอง ถึงเรื่องเป้าหมายที่ตั้งใจจะทำในปี 2020นี้ และตั้งใจจะมาช่วย “เตือน” ว่าอย่าหลงลืมความตั้งใจที่จะทำเป้าหมายเหล่านั้นให้สำเร็จ ในแบบของตัวเอง ขอเป็นกำลังใจให้ปีนี้ ประสบความสำเร็จได้อย่างใจหวังนะคะ

     ก่อนจะจากกันไปในวันนี้  อยากให้ทุกคนลองมาแชร์ New Year’s Resolution ของตัวเองที่คอมเมนต์ของโพสต์นี้ที่ Facebook กันหน่อยนะคะ เพื่อที่จะได้แลกเปลี่ยนเรื่องราวดี ๆ แบบนี้กับเพื่อน ๆ ท่านอื่น ๆ กันนะคะ

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2563

6 เกมสนุกที่ช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณ


ควรจะเรียนภาษาอังกฤษด้วยความสนุกสนาน เราเรียนรู้ได้เร็วและมีประสิทธิภาพเมื่อเรามีส่วนร่วมในการเรียนรู้และใช้เกมเป็นเครื่องมือในการเรียนที่น่าสนใจ นี่คือ 5 เกมที่จะช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณในขณะที่คุณก็ยังสนุกไปกับเพื่อนของคุณ


เกมจริงหรือโกหก

เกมนี้เป็นเกมสำหรับเล่น 2 คนหรือมากกว่านี้ ในหน้าหนึ่งของกระดาษเขียน 3 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคุณ 2 ข้อควรจะเป็นข้อเท็จจริงและอีก 1 ข้อเป็นเรื่องโกหก เขียนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคนอื่นในกลุ่มและพวกเขาจะต้องเดาว่าเรื่องใดคือเรื่องจริง เรื่องใดคือเรื่องโกหก พวกเขาสามารถถามคำถามเกี่ยวกับข้อเท็จจริงเพื่อตรวจสอบว่าคุณโกหกได้ดีแค่ไหน ดังนั้นคุณควรจะเตรียมตัวเพื่อที่จะอธิบาย ผู้ชนะเป็นคนที่ทำให้กลุ่มเชื่อคำโกหกมากที่สุด


เรียนรู้จากเกมออนไลน์หรือวีดีโอเกม

การบ้าน แบบทดสอบ และงานอื่น ๆที่ได้รับมอบหมายสามารถทำให้เกิดความเครียดและความวิตกกังวลของนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนที่อาจจะดิ้นรนเพื่อทำให้ทัน ความเครียดและความวิตกกังวลนี้สามารถขัดขวางความก้าวหน้าของนักเรียนและทำให้พวกเขารู้สึกโดดเดี่ยวจากเพื่อนที่ประสบความสำเร็จมากกว่า แต่ก็ยังมีวิดีโอเกมออนไลน์จาก1xBet คาสิโนทำให้เกิดการเรียนรู้จากเกมได้อย่างเท่าเทียมเพราะเกมจะช่วยลดความเครียด เพิ่มการมีส่วนร่วมทางสังคม และถึงแม้ว่าจะช่วยนักเรียนให้มีความสนุกสนานขณะที่เรียนภาษาอังกฤษหรือภาษาใหม่ๆ


ในความเป็นจริง ผลการวิจัยของวอชิงตันที่ตีพิมพ์ขึ้นมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้แสดงประโยชน์ด้านสุขภาพที่หลากหลายจากวีดีโอเกมและการเรียนรู้จากเกมรวมทั้งข้อเท็จจริงที่ว่า


 1.ช่วยลดหรือบรรเทาอาการซึมเศร้า
 2.ช่วยลดหรือบรรเทาอาการโรคนอนไม่หลับ
 3.ช่วยบรรเทาอาการความเครียดชั่วคราว


นักวิทยาศาสตร์มีการค้นพบอย่างแน่นอนว่าไม่เพียงแต่แค่เรียนรู้ภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นใหม่ๆอย่างรวดเร็ว ต้องขอบคุณเกมวีดีโอ พวกเขายังสามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพที่หลากหลายเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้ภาษาผ่านวีดีโอเกมเพียงอย่างเดียวไม่ใช่ทางเลือกที่เป็นไปได้ที่จะก้าวหน้า การเรียนรู้แบบมีโครงสร้างเหมือนที่คุณพบในห้องเรียน


เกมใบ้คำ 

 เป็นเกมคลาสสิกปาร์ตี้และมันฝึกภาษาอังกฤษได้ดีอีกด้วย ในกองบัตรหรือกระดาษเขียนคำศัพท์ที่คุณต้องการจดจำ เช่น คำกริยาและคำนามจะสนุกสำหรับเกมนี้ ผสมบัตรคำและผลัดกันหยิบและแสดงท่าทางตามคำศัพท์ที่ได้ ในขณะที่คำในกลุ่มพยายามที่จะเดาคำศัพท์ที่คุณแสดงท่าทางออกมา เกมแฮงแมน

เกมแฮงแมน

เป็นอีกหนึ่งเกมที่มีประสิทธิภาพที่จะฝึกฝนคำศพท์ใหม่ ๆกับคู่ที่คุณเล่นด้วย คิดคำศัพท์และเขียนลงในกระดาษโดยเว้นตัวอักษรไว้ คู่ของคุณต้องเดาคำโดยเริ่มจากตัวอักษรแรก ถ้าเขาหรือเธอเดาตัวอักษรถูกต้องก็นำตัวอักษรมาเติมตรงที่เว้นไว้ ถ้าเขาหรือเธอเดาตัวอักษรผิด ให้วาดรูปแท่นที่แขวนคอและคนที่จะถูกแขวน ถ้าผู้ที่คุณเล่นด้วยเดาตัวอักษรก่อนวาดรูปคนแขวนคอครบ เขาคือผู้ชนะ ถ้าวาดรูปเสร็จแล้วยังเหลือตัวอักษรที่เติมไม่ครบ คุณคือผู้ชนะ

เกมอย่าลืม... 

ในกลุ่มของคุณ คุณกำลังไปจ่ายตลาด ก่อนที่คุณจะออกไป คุณจะต้องทำรายการซื้อของ นั่งเป็นวงกลมและเริ่มที่คนแรกโดยพูดของที่จะต้องซื้อเป็นรายการแรก ยกตัวอย่างเช่น ฉันกำลังออกไปซื้อของ ฉันต้องการซื้อแอปเปิ้ล คนต่อมาเพิ่มรายการซื้อของและจำรายการของที่คนแรกต้องการซื้อด้วย ยกตัวอย่างเช่น ฉันกำลังออกไปซื้อของและฉันต้องการซื้อแอปเปิ้ลและขนมปัง ทำแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆจนครบและดูว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนก่อนที่ใครบางคนจะลืมรายการใดรายการหนึ่ง

 เกม 20 คำถาม 

เริ่มจากนึกถึงบุคคล สิ่งของ สัตว์ และอื่น ๆ ผู้เล่นคนอื่นควรจะถาม 20 คำถามที่ต้องตอบว่า ใช่ หรือ ไม่ เพื่อรวบรวมข้อมูล จำไว้ว่าให้ตอบด้วยคำว่า "ใช่" หรือ "ไม่" เท่านั้น ถ้าผู้เล่นสามารถเดาถูกก่อนคำถามที่ 20 คนเดาจะชนะ ถ้าเกิน 20 คำถามยังตอบไม่ได้ ผู้ถามจะชนะ ดังนั้น คุณรู้แล้วว่า 5 เกมสนุกที่จะช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณ สิ่งที่คุณต้องทำคือพบปะกับเพื่อนและเริ่มเล่นกับพวกเขา!

วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

100 คำศัพท์สำหรับ TOEIC


การสอบ TOEIC นั้น เรียกได้ว่าเป็นการสอบที่เบิกทางในอนาคตให้กับใครหลายๆ คนก็ว่าได้ แต่อย่างที่รู้กันว่า การจะเตรียมตัวสอบนั้น นอกเหนือจากการฝึกฝน อ่านหนังสือแล้ว การจดจำคำศัพท์ TOEIC ก็สำคัญ เผลอๆ อาจจะช่วยให้คุณผ่านข้อสอบฉลุยเลยก็ได้! 

ว่าแต่จะมีคำศัพท์ TOEIC อะไรที่น่าจำบ้าง เราลิสต์มาให้คุณแล้ว ตาม กันมาเลย! 

achievement   = ความสำเร็จ  

ตัวอย่างประโยค: List all of your previous achievements on your resume.

alternative  = ทางเลือก, ตัวเลือก 

ตัวอย่างประโยค : Carob is sometimes used in sweet foods as a healthier alternative to chocolate.

applicable =  ใช้ได้, เหมาะสม

ตัวอย่างประโยค: The new qualifications are applicable to all European countries.

applicant =  ผู้สมัคร

ตัวอย่างประโยค: All applicants are required to submit their resumes.

apprehensive =  ประหม่า,กังวล

ตัวอย่างประโยค: Many people feel apprehensive before an important job interview.

approximate =  ราวๆ, ประมาณ

ตัวอย่างประโยค: The price quoted by the movers is only an approximate cost and is subject to change.

associate =  มีความสัมพันธ์, เกี่ยวข้องกัน

ตัวอย่างประโยค: Two of the applicants were associated with a competitor.

beneficial = เป็นประโยชน์, เป็นผลดี

ตัวอย่างประโยค: The organization’s work is beneficial to the community.

career = อาชีพ

ตัวอย่างประโยค: Jacobson started his banking career in 1990.

collaborate = ร่วมมือ, ทำร่วมกัน

ตัวอย่างประโยค: Two writers collaborated on the script for the film.


วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2563

หลักการเรียงคำคุณศัพท์ (Order of Adjectives) ในประโยคภาษาอังกฤษ

 ในภาษาอังกฤษเราใช้คำคุณศัพท์ (Adjectives) พูดพรรณนาสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่ง และบางครั้งอาจมีลักษณะที่อยากอธิบายถึงมากกว่าหนึ่งอย่าง แน่นอนว่าต้องใช้คำคุณศัพท์ในการพรรณนาสิ่งนั้นมากกว่า 1 คำ ซึ่งในภาษาอังกฤษจำเป็นต้องเรียงคำคุณศัพท์ที่จะวางไว้หน้าคำนามที่ถูกขยายความไว้ให้ถูกต้องตามหลักทางภาษา เอาล่ะสิ...แล้วต้องเรียงอย่างไร มาดูหลักการเรียงคำคุณศัพท์ (Order of Adjectives) ในภาษาอังกฤษกันค่ะ

 จำไว้ให้แม่น คำคุณศัพท์ต้องเรียงตามลำดับนี้เท่านั้น…

ลำดับที่ 1 : ความคิดเห็น เช่น beautiful (สวย), good (ดี), bad (เลว), friendly (เป็นมิตร)

ลำดับที่ 2 : ขนาด เช่น short (สั้น), small (เล็ก), tall (สูง), long (ยาว) 

ลำดับที่ 3 : อายุ เช่น old (แก่), young (หนุ่มสาว), middle-aged (กลางคน)

ลำดับที่ 4 : สี เช่น black (สีดำ), white (สีขาว), red (สีแดง), green (สีเขียว)

ลำดับที่ 5 : ที่มา เชื้อชาติ เช่น Thai (ไทย), Chinese (จีน), Japanese (ญี่ปุ่น)

ลำดับที่ 6 : ชนิดวัตถุ เช่น metal (โลหะ), wood (ไม้), plastic (พลาสติก) 

 วิธีการเรียงลำดับคำคุณศัพท์

การเรียงลำดับคำคุณศัพท์นั้นก็ไม่ยาก หากเราต้องการขยายความคำนามด้วยคำคุณศัพท์ชนิดได้ ก็ให้เรียงลำดับไปตามลำดับจากลำดับ 1-6 ซึ่งโดยปกติแล้ว จะมีการใช้คำคุณศัพท์เพียง 1-2 คำ แต่หากมีการใช้คำคุณศัพท์หลายคำ ก็เรียงลำดับไปตามหลักการนี้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

 A: What does she look like?

    (เธอมีลักษณะอย่างไรคะ)

B : She is a beautiful tall young Chinese woman.

                    ↓          ↓     ↓         ↓

                    (1)        (2)     (3)       (5)

     (เธอเป็นผู้หญิงชาวจีนที่ยังเป็นเด็กสาว รูปร่างสูง และสวยด้วย)

 A: Where is my bag?

    (กระเป๋าของฉันอยู่ไหนเนี่ย)

B: What does it look like?

    (มันมีลักษณะอย่างไร)

A: It is a small red leathern bag.

                ↓     ↓      ↓

              (2)    (4)     (6)

    (มันเป็นกระเป๋าที่ทำจากหนัง สีแดง มีขนาดเล็ก)

 A: How was the movie?

    (หนังเรื่องนั้นเป็นอย่างไรบ้าง)

B: It was the romantic French movie.

                              ↓

                                  (5)

     (มันเป็นหนังฝรั่งเศสที่โรแมนติกค่ะ)

 ข้อสังเกต : หากเป็นชื่อประเทศหรือแหล่งที่มาจะต้องขึ้นต้นด้วยตัวใหญ่เสมอ

 หลักในการใช้คุณศัพท์ดังกล่าว จะเห็นได้ว่าไม่ยากเลยค่ะ หากแต่เราต้องวางให้ถูกต้องตามลำดับการเรียงของเขา แค่นี้ก็ทำให้เก่งภาษาอังกฤษขึ้นอีกนิดหนึ่งแล้ว สู้ ๆ ค่า เราจะเก่งอังกฤษไปด้วยกัน