วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Adverbs คืออะไร มีหน้าที่อะไร

บทที่ 7 Adverbs คืออะไร มีหน้าที่อะไร


Adverbs แปลว่า “กริยาวิเศษณ์”  (บางตำราเรียก “คำวิเศษณ์” เฉยๆ ก็ได้ )  มีไว้สำหรับ “ใช้ทำหน้าที่ขยายกริยา,  ขยายคุณศัพท์, ขยายกริยาวิเศษณ์(ด้วยกันเอง)  ขยายประโยค, และขยายสรรพนาม บุรพบทวลี  และจำนวนนับ”  ดังจะขอยกตัวอย่างให้เห็นว่า  ขยายได้อย่างไรมาประกอบการอธิบายพอสังเขปดังต่อไปนี้
ขยายกริยา  เช่น :               He works hard every day.
เขาทำงานหนักทุก ๆ วัน
(hard  เป็น  Adverb   ขยายกริยา  works)
ขยายคุณศัพท์  เช่น :          These students are very intelligent.
นักศึกษาเหล่านี้มีสติปัญญามาก
(Very   เป็น  Adverb   ขยายคุณศัพท์  intelligent)
ขยายกริยาวิเศษณ์   เช่น : She drives very carefully.
หล่อนขับด้วยความระมัดระวังมาก
(very  เป็น  Adverb ขยาย Adverb “carefully”)
ขยายทั้งประโยค  เช่น :     Fortunately,  no one complained of me.
โชคดีแท้ ๆ ไม่มีผู้ใดบ่นถึงผมเลย
(fortunately  เป็น  Adverb  ทำหน้าที่ขยายทั้งประโยคที่ตามหลัง)
.
ขยายสรรพนาม เช่น :       What else can I say?
ผมพูดอะไรอีกได้ไหม?
(else  เป็น Adverb  มาขยายสรรพนาม what)
ขยายบุรพบทวลี เช่น :      You ought to go right to the end of the rood.
คุณควรจะไปทางขวาของสุดถนนนี้
(right  เป็น Adverb  มาขยายบุรพบทวลี  to the end of the road)
ขยายจำนวนนับ เช่น :      We go to Bangsaen almost every Sunday.
เราไปเที่ยวบางแสนเกือบทุกวันอาทิตย์
(almost  เป็น  Adverb มาขยายจำนวนนับ  every)
********************************************
ชนิดของ Adverb

ชนิดของ Adverb

Facebook Twitter Email
Adverb   แบ่งออกเป็นหมวดใหญ่ ๆ ได้  3  หมวด คือ
2.  Interrogative  Adverb   กริยาวิเศษณ์คำถาม
3.  Conjunctive  Adverb   กริยาวิเศษสันธาน


รูปศัพท์หรือแหล่งกำเนิดของ Adverb

รูปศัพท์หรือแหล่งกำเนิดของ Adverb

Facebook Twitter Email
รูปศัพท์หรือแหล่งกำเนิดของ  Adverb  มีมาได้ดังนี้
  1. 1.              มีรูปมาจากนามโดยการเติม  ly  ข้างหลังคำนั้น  เช่น
Noun                             เป็น  Adverb                       คำแปล
Day                                                daily                                       ประจำวัน
  1. 2.              มีรูปมาจากนามโดยการเติม  ward  หรือ  wards  ที่ท้ายนามนั้น เช่น
Noun                          เป็น  Adverb                       คำแปล
Back                         backwards                            ข้างหลัง
  1. 3.              มีรูปมาโดยกำเนิดของตัวเอง  จะต่อเติมหรือตัดตอนแม้เพียงส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ ได้แก่
here, there, hard, late, always, well, often, too, very, seldom, where, when, hence,
whence, how, why, then, once, twice, sometimes.
  1. 4.              มีรูปจากการรวมบุรพบทเข้ากับนาม  แล้วนำมาใช้เป็น Adverb  ได้แก่
to   +  day            =             today                      วันนี้
to   +  morrow    =             tomorrow             วันพรุ่งนี้
in    + side            =             inside                     ข้างใน
out  +  side           =             outside                   ข้างนอก
  1. 5.           มีรูปมาจากการเติม  A  อาคม  (Affix)  เข้าข้างหน้านามหรือกริยา แล้วนามหรือกิริยาตัวนั้นจะกลายเป็นกริยาวิเศษณ์  (Adverb)  ทันที เช่น
a     +   way         =             away                      ไม่อยู่  จากไป  ไกลออกไป
                                6.   มีรูปมาจากคุณศัพท์โดยการเติมปัจจัย  (Suffix)  ly  ลงข้างหลังแล้วคุณศัพท์ตัวนั้นก็กลายเป็น Adverb  ทันที  แต่การเติมปัจจัย ly  มีหลักเกณฑ์ดังนี้

.
                1)  ถ้า  Adjective  ตัวนั้นลงท้ายด้วย  y  และหน้า  y  เป็นพยัญชนะให้เปลี่ยน  y เป็น  i   แล้วจึงเติม  ly  เช่น
เป็น  Adjective    คำแปล                  เป็น   Adverb      คำแปล
easy                        ง่าย                         easily                     อย่างง่าย
heavy                     หนัก                       heavily                  อย่างหนัก
                2)  ถ้า Adjective  ลงท้ายด้วย  e และหน้า  e เป็น  I  ให้เปลี่ยน   e เป็น  y เพราะเมื่อเปลี่ยนแล้วเท่ากับ  ly  เช่น
เป็น  Adjective    คำแปล                  เป็น   Adverb      คำแปล
                                suitable                                 เหมาะสม              suitably                 อย่างเหมาะสม
simple                 ง่าย                         simply                   อย่างง่ายๆ
                3)  นอกจากกฎที่กล่าวมา เมื่อต้องการให้ Adjective  เป็น Adverb ให้เติม  ly  ที่ท้าย  Adjective  ตัวนั้นได้เลย  ไม่ต้องลังเลใจ  เช่น
เป็น  Adjective    คำแปล                  เป็น   Adverb      คำแปล
bad                         เลว                          badly                      อย่างเลว
brave                      กล้าหาญ               bravely                  อย่างกล้าหาญ
                7.   Adverb  บางตัวมี  2  รูป  แต่ความหมายต่างกันได้แก่  Adverb  เช่น
hard                        ยาก,  หนัก           hardly                    แทบจะไม่
late                         สาย                        lately                      เมื่อเร็ว ๆ นี้
ADVERB และ ADJECTIVE  มีรูปเหมือนกัน

ADVERB และ ADJECTIVE มีรูปเหมือนกัน

Facebook Twitter Email
คำที่มีรูปศัพท์เหมือนกันทั้งที่ใช้เป็น Adverb และ Adjective ในภาษาอังกฤษที่พบเห็นบ่อย ๆ ได้แก่คำต่อไปนี้ คือ
fast         เร็ว             first    ที่หนึ่ง                   fair         ยุติธรรม
hard        หนัก          deep   ลึก                         long        นาน ยาว
low         ต่ำ              high  สูง                        right       ถูก
loud        ดัง               wrong  ผิด                      straight  ตรง
enough  พอ              short    สั้น                      late           สาย     etc.
.
เมื่อคำเหล่านี้มีรูปเหมือนกันทั้งที่ใช้เป็น  Adverb  และ  Adjective   จะรู้ได้อย่างไรว่า  เป็นอันไหนนั้นให้ดูที่ตำแหน่งการวางในประโยค  คือ
                ก.    ถ้าวางไว้หน้านามหรือหลัง  Verb to be   เป็น  Adjective
ข.      ถ้าวางไว้หลังกริยา  (ทั่วไป)  เป็น  Adverb   เช่น

เป็น  Adjective                           เป็น   Adverb
This is a fast train.                    This train runs fast.
นี่คือ ขบวนรถเร็ว                        รถไฟขบวนนี้วิ่งเร็ว


Adverbial Particle

Adverbial Particle คืออะไร

Facebook Twitter Email
Adverbial Particles  ได้แก่  คำบุรพบท  (Preposition)  บางคำที่นำมาใช้ต่อท้ายกริยา  (verb)  บางตัว แล้วทำให้บุรพบทตัวนั้น Adverb  ไป  เราจึงเรียกบุรพบทที่ใช้ตามหน้าที่ว่า  “Adverbial Particle”  แปลว่า หน่วยคำที่ใช้ร่วมกับกริยาแล้วทำหน้าที่เป็น  Adverb
Preposition   ที่นำมาใช้เป็น  Adverbial  Particle  เท่าที่พบเห็นบ่อยได้แก่  in  on  up  by  over  away  down  round  back   through
Particles   เหล่านี้เมื่อนำมาใช้ต่อท้ายกริยาแล้ว  แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ
1)            ชนิดที่ใช้ต่อท้ายแล้วให้ความหมายคงเดิม  ไม่เปลี่ยนแปลง  ฟังเข้าใจง่าย เช่น  
The pupils are writing a ;sentence down.
.
นักเรียนกำลังเขียนประโยคลงไป
2)            ชนิดที่นำมาใช้ต่อท้ายแล้ว ทำให้ความหมายเปลี่ยนไปจากเดิม  ฟังเข้าใจได้ยากขึ้น เช่น
His offer is good reasonable,  so I give in him.
ข้อเสนอของเขามีเหตุผลดีมาก  ดังนั้นผมจึงยอมแพ้เขา
***************

Two – Word Verb of Separable and Inseparable

Two – Word Verb of Separable and Inseparable

Facebook Twitter Email
การนำเอา Adverbial Particle (แท้ที่จริงก็คือการนำเอาบุรพบทนั้นเอง) ไปต่อท้ายกริยา หรือใช้คู่กับกริยา ซึ่งเรามักจะได้ยินอยู่เสมอว่า Two – word verb (กริยาคู่ หรือ Phasal verb หรือ Verb ที่เป็นวลี) มีหลักการวางตำแหน่งดังนี้
    1. ชนิดที่แยกก็ได้ไม่แยกก็ได้เมื่อมีกรรมมารับ (Two – Word Verb of Separable When follwed by object)
      • ชนิดที่แยกก็ได้ไม่แยกก็ได้ ได้แก่ Two – Word Verb ต่อไปนี้คือ
      bring about
      ทำให้เกิด, ก่อเหตุ
      figure out
      คะเน, ประมาณ
      bring up
      สั่งสอน, แนะนำ
      fill out
      กรอกรายการ
      blow up
      ระเบิดออกมา
      find out
      สำรวจ, ไม่พบ
      burn down
      ไหม้เป็นจุล
      have on
      สวม, มีติดตัว
      call off
      เลิก, บอกเลิก
      hold off
      ขัดขวาง
      call up
      โทรศัพท์ไปหา
      leave out
      ข้ามไป, ยกเว้น
      carry on
      ดำเนิน, ทำต่อไป
      look over
      ตรวจสอบ
      carry out
      บริหาร, ดำเนินการ
      look up
      ค้นหา
      cross out
      ตัดทิ้ง, ยกเลิก
      make up
      ปั้นเรื่อง, แต่ง
      do over
      ทำอีก, แต่งใหม่
      make over
      ทำให้เป็นเรื่องใหญ่
      pick out
      เลือก, คัด
      pick up
      เก็บขึ้นมา
      point out
      ชี้แจง
      turn off
      ปิด (น้ำ, ไฟ, วิทยุ)
      put off
      เลื่อนไป
      think over
      พิจารณา
      put out
      ดัน, ไล่ออก
      try on
      ทดสอบ
      take up
      ยึดครอง, รับทำ
      try out
      ตรวจ, ทดสอบ
      take over
      ปรึกษาหารือ
      turn on
      เปิด (น้ำ, ไฟ, วิทยุ)
      wear out
      ชำรุดจนใช้ไม่ได้
      etc..
      -
      ข้อสังเกต :
      a) ถ้าตัวกรรมนั้นเป็นคำนาม (ไม่ใช่สรรพนาม) แยกก็ได้ไม่แยกก็ได้ เช่น
      แยกก็ได้:They’ve called the game off.
      ไม่แยก:They’ve called off the game.
      พวกเขาได้เลิกเล่นกีฬาแล้ว
      แยกก็ได้:called Mary up yesterday.
      ไม่แยก:called up Mary yesterday.
      ผมโทรศัพท์ไปหาแมรี่เมื่อวานนี้
      แยกก็ได้:He looked the meaning of this word up.
      ไม่แยก:He looked up the meaning of this word.
      เขาค้นดูความหมายของคำนี้
      b) ถ้าตัวกรรมนั้นเป็นบุรุษสรรพนาม (Personal Pronoun) ไม่ใช่คำนาม จะต้องแยก Adverbial Particle ไปเรียงหลังกรรม คือสรรพนามนั้นตลอดไป ห้ามวางไว้หน้าสรรพนามโดยเด็ดขาด เช่น
      ถูก
      :called them up. (อย่าใช้ : called up them.)
      ผมโทรศัพท์สั่งพวกเขาแล้ว
      ถูก
      :She picked it out. (อย่าใช้ : She picked out it.)
      หล่อนคัดเลือกเอาแล้ว
      ถูก
      :Can you bring it out ? (อย่าใช้ : Can you bring out it ?)
      คุณเอาออกมาแสดงให้ดูได้ไหม ?
  1. ชนิดที่แยกไม่ได้เด็ดขาด ไม่ว่าจะมีกรรมมารับหรือไม่ก็ตาม (Two – Word Verb of Inseparable when followed by object or not)
    • ชนิดที่แยกไม่ได้โดยเด็ดขาด แม้จะมีกรรมตามหลังหรือไม่ก็ตาม ได้แก่ Two – Word verb ต่อไปนี้
    bear on
    เกี่ยวข้อง, ว่าด้วย
    hear of
    ได้ยินพูดถึง, รู้เรื่อง
    break in
    ขัดจังหวะ, ฝึกฝน
    hit on
    ค้นพบโดยบังเอิญ
    break into
    บุกรุก, โจรกรรม
    keep to
    ดำเนินต่อไปตามวิถีทาง
    call for
    เรียกหา, ไปรับ
    live on
    เลี้ยงชีวิตด้วย
    call on (บุคคล)
    ไปเยี่ยม, แวะเยี่ยม
    look after
    ดูแล, เฝ้า
    call at (สถานที่)
    ไปเยี่ยม, หยุด
    look for
    หา, ค้นหา
    care for
    สนใจ, เอาใจใส่
    look into
    สอบสวนอย่างละเอียด
    come across
    พบโดยบังเอิญ
    look across
    โดยบังเอิญ
    count on
    พึ่งพาอาศัย, เชื่อมั่น
    run against
    พบ, ติดต่อกับ
    do without
    ทำต่อไปโดยปราศจาก
    run after
    วิ่งไล่ตาม
    figure on
    คาดหวัง
    run over
    ทับ, ทบทวน
    get off่
    ลงจากรถ, ขึ้นจากเรือ
    see about
    ดูแล, เอาใจใส่
    get on
    ขึ้นรถ, ลงเรือ
    see to
    รับเอาเป็นภาระ
    get over
    หายจากป่วยไข้, หมด
    settle on
    เห็นชอบด้วย
    get around
    ไปไหนมา, หลีกเลี่ยง
    stand for
    ไปแทน, ใช้แทน
    go over
    ทบทวน, ทำซ้ำ
    stick to
    อดทน, ยึดมั่น
    go with
    ไปด้วยกัน, ร่วมกับ
    disagree with
    ไม่เห็นด้วย
    go without
    ขาดไป, ปราศจาก
    run into
    ชน, ปะทะกัน
    etc.
    -
    -
    -

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น