มีหลักการใช้อย่างไรและต่างกันหรือไม่
ตัวอย่างประโยค have to และ must
I have to
wear glasses for reading. แปลว่า ฉันต้องสวมแว่นเพื่ออ่านหนังสือ
I must wear
glasses for reading. แปลว่า ฉันต้องสวมแว่นเพื่ออ่านหนังสือ
I have to
sleep at 21.00 . แปลว่า ฉันต้องเข้านอนเวลา 21.00
I must sleep
at 21.00 . แปลว่า ฉันต้องเข้านอนเวลา 21.00
จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่าทั้ง have to และ must ต่างก็มีความหมายเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วทั้งสองคำมีวิธีการใช้แตกต่างกันเล็กน้อยดังนี้
have to และ must ใช้ต่างกันอย่างไร
must
จะใช้สำหรับสิ่งที่เป็นความรู้สึกนึกคิดของผู้พูดเอง เป็นความเชื่อ
have
to จะใช้สำหรับสิ่งที่เป็นความจริง
ยกตัวอย่างเช่น
I must go on
a diet, because I feel that I should. แปลว่า ฉันต้องอดอาหารต่อไป เพราะฉันรู้สึกว่าฉันควรทำ
I have to go
on a diet, because the doctor said so. แปลว่า ฉันต้องอดอาหารต่อไป เพราะหมอบอกอย่างนั้น
จะเห็นได้ชัดว่า แม้ทั้งสองประโยคจะกล่าวถึงความจำเป็นต้องอดอาหารต่อไป แต่กรณีแรกเป็นความรู้สึก ความเชื่อ จากภายในใจ ของผู้พูดจึงใช้ must แต่กรณีที่สองเป็นความจริงที่หมอสั่งให้ทำ เป็นปัจจัยที่ไม่ได้มาจากความรู้สึกของผู้พูด จึงใช้ have to
มาดูตัวอย่างเพิ่มเติม
I must stop
smoking. (I want to.)
I have to
stop smoking. (Doctor’s orders.)
ทั้งสองประโยคมีความหมายเช่นเดียวกัน คือ ฉันต้องเลิกสูบบุหรี่ แต่กรณีที่ต้องการเลิกเองจะใช้ must , ส่วนกรณีที่หมอสั่งใช้ have to
It must be
nice to live in Bangkok
. มันต้องดีแน่ที่จะอยู่ในกรุงเทพ ฯ (เป็นความรู้สึก)
I have to
work from 8.30 to 17.30 every day. ฉันต้องทำงาน 8.30 ถึง 17.30 ทุกวัน (เป็นข้อเท็จจริง)
ประโยคปฏิเสธ have to และ must
- have to เมื่ออยู่ในรูปประโยคปฏิเสธ จะใช้คำว่า don’t have to
- must เมื่ออยู่ในรูปประโยคปฏิเสธ จะใช้คำว่า mustn’t
ซึ่งก็มีความแตกต่างในการใช้งาน คือ
mustn’t จะใช้บอกว่าต้องไม่ทำสิ่งใด ซึ่งถือเป็นเรื่องจำเป็นมากที่จะไม่ทำ เช่น
You must keep
this a secret. You mustn’t tell anyone. แปลว่า คุณต้องเก็บความลับไว้ คุณต้องไม่บอกใคร (สำคัญมาก ห้ามบอกเด็ดขาด)
don’t have to
จะใช้บอกว่าต้องไม่ทำสิ่งใด แต่ถ้าจะทำก็ได้ เช่น
You don’t
have to tell Tom what happened. I can
tell him myself. แปลว่า คุณต้องไม่บอกทอมว่าเกิดอะไรขึ้น. ฉันสามารถบอกเขาได้เอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น