วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557

การใช้ If (4 แบบ)


      แต่ละตำราก็จะเรียกไม่ค่อยเหมือนกัน เอาง่ายๆ ละกันว่ามี 4 แบบ ไปจำว่า First condition, Second condition หรือ Third condition ก็ไม่ได้ช่วยให้เราเรียนรู้อะไร

แบบที่ 1 If + Present Simple, Present Simple
วิธีใช้ ใช้กับเหคุการณ์ที่เป็นความจริง
เช่น
If you heat water, it boils. (ถ้าคุณต้มน้ำ น้ำก็เดือด)
If you get here before seven, we can catch the early train. (ถ้าคุณมาถึงที่นี่ก่อน 7 โมง เราก็สามารถขึ้นรถไฟไปได้เร็ว)
I can’t drink alcohol if I have to drive. (ฉันไม่สามารถดื่มแอลกอฮอล์ถ้าฉันต้องขับรถ)


แบบที่
2 If + Present Simple, Will + V1
วิธีใช้ ใช้กับเหคุการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน
เช่น
If I have enough money, I will go to Japan. (ถ้าฉันมีเงิน ฉันจะไปญี่ปุ่น)
If he is late, we will have to start the meeting without him. (ถ้าเขามาสาย เราจะต้องเริ่มการประชุมโดยไม่มีเขา)
I won’t go outside if the weather is cold. (ฉันจะไม่ออกไปข้างนอกถ้าอากาศมันเย็น)
If I have time, I will help you. (ถ้าฉันมีเวลา ฉันจะช่วยคุณ)
If you eat too much, you will get fat (ถ้าคุณกินมากเกินไป คุณก็จะอ้วน)


แบบที่
3 If + Past Simple, would + V1 (would แปลว่า น่าจะ) (Past Simple à V2)
วิธีใช้ใช้กับเหคุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในปัจจุบัน หรือ อนาคต
เช่น
If I knew her name, I would tell you. (ถ้าฉันรู้ชื่อเธอ ฉันก็น่าจะบอกคุณ) [จริงๆ แล้วไม่รู้จักชื่อเธอ]
She would be safer if she had a car. (เธอน่าจะปลอดภัยกว่านี้ ถ้าเธอมีรถ) [จริงๆ แล้วเธอไม่มีรถ]
It would be nice if you helped me do the housework. [มันน่าจะดีถ้าคุณได้ช่วยฉันทำงานบ้านบ้าง] [จริงๆ แล้วเธอไม่ช่วยเลย]
If I were you, I would call her. (ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันน่าจะโทรหาเธอ) [จริงๆ แล้ว ฉันไม่ได้เป็นคุณ]
If I were you, I would not say that. (ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันก็ไม่น่าจะพูดเช่นนั้น) [จริงๆ แล้ว ฉันไม่ได้เป็นคุณ]


แบบที่ 4
If + Past perfect, would have + V3 (Past perfect -> Had + V3)
วิธีใช้ใช้กับเหคุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในอดีต
เช่น
If you had worked harder, you would have passed your exam. (ถ้าคุณขยันให้มากกว่านี้ คุณก็น่าจะสอบผ่าน) [จริงๆ แล้วสอบตกไปแล้ว]
If you had asked me, I would have told you. (ถ้าคุณถามฉัน ฉันก็น่าจะบอกคุณไปแล้ว) [จริงๆ แล้วคุณไม่ได้ถาม]
I would have been in big trouble if you had not helped me. (ฉันน่าจะมีปัญหาไปแล้ว ถ้าคุณไม่ได้ช่วยฉันไว้) [จริงๆ แล้วคุณช่วยฉันไว้]
If I had met you before, we would have been together. (ถ้าฉันพบคุณก่อนหน้านี้ เราก็น่าจะได้อยู่ด้วยกันไปแล้ว) [จริงๆ แล้วฉันพบคุณช้าไป]

เมื่อทำความเข้าใจเรื่องนี้แล้ว เรามาทำแบบฝึกหัดกันนะคะ

================================================================================= ถ้าอ่านข้างบนไม่รู้เรื่อง อ่านอีกตำราหนึ่งค่ะ


การใช้ if clause บ้างก็เรียก Conditional sentences เป็นเรื่องที่จะว่าง่ายมันก็ง่าย จะว่ายากมันก็ยากนะ เพราะมันต้องใช้ทำความเข้าใจ จินตนาการและการจดจำ ดังนั้นหลักการใช้ if-clause หรือ ประโยคเงื่อนไข จึงถือว่าเป็นไวยากรณ์ในขั้นแอดวานซ์สำหรับผู้เรียนหลักภาษา

เพิ่มคำอธิบายภาพ

if clause คืออะไร
  • if แปลว่า ถ้า
  • clasue แปลว่า อนุประโยค
ดังนั้น if clause คือ อนุประโยค ถ้า…..
conditional sentences คือ
  • conditional แปลว่า เงื่อนไข
  • sentences แปลว่า ประโยค
conditional sentences คือ ประโยคเงื่อนไข
สรุปว่า เรารู้จัก if clause กับ ประโยคเงื่อนไข แต่ความหมายไปคนละทางเลย เอาเป็นว่าวันนี้เรามาเรียนเรื่อง IF CLAUSE – ประโยคเงื่อนไขกันนะครับ ว่ามีกี่แบบ เอาไปใช้อย่างไรบ้าง
ที่มันได้ชื่อว่า if clause เพราะว่าหลังคำว่า if….. จะเป็นอนุประโยค คือ ประโยคที่ไม่สมบูรณ์นั่นเอง เช่น ถ้าคุณพบเจน, ถ้าคุณรวย, ถ้าคุณถูกล็อตเตอรี่ เป็นต้น

หลักการใช้ if clause

โครงสร้างประโยค if clause

โครงสร้างของประโยคสามารถที่จะเอา If clause นำหน้า Main clause หรือ เอา Main clause นำหน้า If clause ก็ได้ เช่น
  • If clause , Main clause 
    If you love me, I will love you.
  • Main clause If clause
    I will love you if you love me.

if clause มีทั้งหมด 4 แบบ

จริงๆแล้วมันมี 3 นะ คือ Type 1, Type 2, Type 3 แต่ที่เพิ่ม เป็น 4 เพราะเอา Type 0 เข้ามาเรียนเสริมก็แค่นั้นเอง บางตำรามีถึง 5 อันก็มี
  1.  Zero Conditional Sentences  หรือ  if clause type 0 
  2.  First Conditional Sentences หรือ  if clause type 1
  3.  Second Conditional Sentences  หรือ  if clause type 2
  4.  Third Conditional Sentences หรือ  if clause type 3

หลักการใช้ Zero Conditional Sentences  หรือ  If clause type 0

Zero Conditional แปลว่า ประโยคเงื่อนไขชนิด 0 ไม่ต้องสนใจชื่อชนิดของมันให้มากนะครับ ให้โฟกัสไปที่หลักการนำไปใช้แล้วกัน

การนำไปใช้:

  • นำไปใช้กับข้อเท็จริงทั่วไปบนโลกและในจักรวาล
โครงสร้างของประโยค
typeif-clausemain clause
0Simple PresentSimple Present
IF I +V1 ., I V1
ถ้าฉันเหนื่อย ฉันนอน
ตัวอย่างประโยค if clause type 0
  • If I am tired, I go to sleep.
    ถ้าฉันเหนื่อน ฉันนอน – ทุกครั้งที่ฉันรู้สึกเหนื่อยเมื่อยล้า ฉันนอนเอาแรงก่อน
  • Your wife gets angry if you smoke.
    แฟนนายโกรธ ถ้านายสูบบุหรี่ – เห็นหล่อนวีนทุกครั้งที่นายสูบ
  • If you go to the park, you can see Jo in the shop.
    ถ้าคุณไปสวน คุณสามารถพบโจได้ในร้าน – โจทำงานที่นั่น ไปก็เจอเลย
  • You must pay 100 baht if you want to watch this movie.
    คุณต้องจ่าย 100 บาท ถ้าคุณต้องการชมหนังเรื่องนี้ – ราคาตั๋วระบุว่า 100 ก็ต้องจ่าย 100 สิ
ในบางกรณีสามารถใช้คำว่า When ก็ได้ เพราะมีความหายเดียวกัน เช่น
  • If I am tired, I go to sleep.
    ถ้าฉันเหนื่อย ฉันไปนอน
  • When  I am tired, I go to sleep.
    เมื่อฉันเหนื่อย ฉันไปนอน

หลักการใช้ First Conditional Sentences  หรือ  If clause type 1

ประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 1

การนำไปใช้:

  • นำไปใช้กับเหตุกาณ์ที่คิดว่าน่าจะเป็นจริงได้ หรือคาดว่าน่าจะเป็นไปได้ สรุปก็คือว่า มีความเป็นไปได้สูงเลยหล่ะ
โครงสร้างของประโยค
typeif-clausemain clause
1Simple Presentwill-future or 
(Modal + infinitive)
IF I +V1 ., I  WILL + V1
IF I +V1 ., I  MAY + V1
ถ้าฉันเรียนหนักๆ ฉันจะสอบผ่าน
Modal ก็คือคำกริยาช่วยนั่นแหละครับ เช่น can, may, shall, should, must etc…
ตัวอย่างประโยค if clause type 1
  • If I study hard, I will pass the exam.
    ถ้าฉันเรียนหนักๆ ฉันจะสอบผ่าน – ฉันมั่นใจว่าอย่างนั้น (อาจไม่ผ่านก็ได้)
  • Your wife will get angry if you smoke.
    แฟนนายจะโกรธเอานะ ถ้านายสูบบุหรี่ – ฉันเป็นเพื่อนหล่อนรู้จักนะสัยเธอดี (อาจไม่โกรธก็ได้ อันนั้นมันแต่ก่อน)
  • If you go to the park, you will see Jo in the shop.
    ถ้าคุณไปสวน คุณอาจจะพบโจได้ในร้านก็ได้ – ฉันไปสวนแล้วเห็นโจกินข้าวร้านนั้นบ่อยๆ (ไปอาจไม่เจอ)
  • You must pass this test , if you read this book.
    นายต้องผ่านการทดสอบแน่ๆ ถ้านายอ่านหนังสือเล่มนี้ – ฉันมั่นใจ ร้อยเปอร์เซ็นต์ (ฮ่าๆ อาจตกอีกก็ได้)
  • If I see John, I’ll tell him.
    ถ้าฉันเจอจอห์น ฉันจะบอกเขาเอง – อาจไม่เจอก็ได้ หรือเจออาจลืมบอกอีกก็ได้
  • You will feel better if you sleep enough.
    คุณจะรู้สึกดึขึ้น ถ้าคุณนอนเพียงพอ – อาจจริงของคุณ หรือไม่จริงก็ได้
  • If it rains, we will play inside.
    ถ้าฝนตกเราจะเล่นข้างใน  – เราคิดไว้อย่างนั้น พอฝนตกจริงอาจวิ่งเล่นข้างนอกก็ได้
  • If I have money, I will buy a BMW.
    ถ้าฉันมีเงิน ฉันจะซื้อ BWM – ตอนนี้กำลังเก็บเงิน คาดว่าถ้าเงินครบน่าจะได้ออกสักคัน

หลักการใช้ Second Conditional Sentences  หรือ  If clause type 2

ประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 2

การนำไปใช้:

  • นำไปใช้กับเหตุกาณ์ที่เพ้อฝัน หรือไม่เป็นจริง
โครงสร้างของประโยค
typeif-clausemain clause
2Simple Pastwould + infinitive
could  กับ might ใช้แทน would ได้นะ
IF I +V2 ., I  WOUD+ V1
ถ้าฉันถูกล็อตเตอรี่ ฉันจะท่องเที่ยวรอบโลก
ตัวอย่างประโยค if clause type 2
  • If I won the lottery, I would travel around the world.
    ถ้าฉันถูกล็อตเตอรี่นะ ฉันจะเดินทางรอบโลกเลย – เพ้อไป ชาตินี้จะมีโอกาศไหม
  • If I had time, I would learn more English.
    ถ้าฉันมีเวลานะ ฉันจะเรียนอังกฤษให้มากขึ้น –  เรียนเอาแค่ผ่านก่อนเถอะ เวลาแทบจะไม่มีเหลืออยู่แล้ว
  • would be happy if I had 1 billion baht.
    ฉันคงมีความสุขมากเลย ถ้าฉันมีเงินสักพันล้าน – รอชาติหน้าบ่ายๆเหอะ งานการก็ไม่ทำ คงเป็นไปได้หรอก
  • If I were you, I would take the offer.
    ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะรับข้อเสนอนะ – นายเป็นฉันไม่ได้หรอก คนละคนกัน
  • would leave early if the boss allowed.
    ฉันจะกลับเร็วหน่อย ถ้าเจ้านายอนุญาต – ฝันไปเหอะ นายเขี้ยวจะตายไป
  • would ask for the numbers if I saw a ghost.
    ฉันจะขอหวย ถ้าฉันเจอผี – ฮ่า….พูดเป็นเล่นไป
  • If I had money, I would buy a BMW.
    ถ้าฉันมีเงิน ฉันจะซื้อ BMW – แต่ฉันไม่มีอ่ะ ทำงานได้มาก็ใช้หมด

หลักการใช้ Third Conditional Sentences  หรือ  If clause type 3

ประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 3

การนำไปใช้:

  • นำไปใช้กับเหตุกาณ์ที่ ตรงข้ามกับความเป็นจริง ณ ตอนนั้น ส่วนมากจะเป็นการรำพึงรำพันเสียดายภายหลัง ณ ตอนนี้
โครงสร้างของประโยค
typeif-clausemain clause
3Past Perfectwould + have + past participle
could  กับ might ใช้แทน would ได้นะ
IF I +HAD + V3 ., I  WOUD+ HAVE+ V3
ถ้าฉันเรียนหนัก ฉันก็สอบผ่านไปแล้ว
ตัวอย่างประโยค if clause type 3
  • If I had studied hard, I would have passed the test.
    ถ้าฉันเรียนหนักนะ ฉันคงสอบผ่านไปแล้ว – ความจริงคือ ตอนนั้นไม่ได้เรียนหนัก แล้วสอบตก
  • If you had taken medicine, you wouldn’t have got a headache.
    ถ้านายกินยานะ นายคงไม่ปวดหัวหรอก – ความจริง ตอนนั้นไม่ได้กิน แล้วปวดอยู่ตอนนี้
  • If he had won the singing contest, he would have got a BMW.
    ถ้าเขาชนะการประกวดร้องเพลง เขาคงได้ BMW ไปแล้ว – ความจริงคือ ตอนั้นแพ้ ขับเก๋งคันเก่าต่อไปเถอะ
  • If she had known that I was sick, she wouldn’t leave me alone.
    ถ้าหล่อนรู้ว่าฉันป่วยนะ หล่อนคงไม่ทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวหรอก – ความจริงคือ ตอนนั้นหล่อนไม่รู้ ฉันต้องอยู่คนเดียวดูแลตัวเอง
  • We would have played football if It hadn’t rained.
    พวกเราคงได้เล่นฟุตบอลแล้วแหล่ะ ถ้าฝนไม่ตกหน่ะ – ความจริงคือ ตอนนั้นไม่ได้เล่นเพราะฝนตก
  • If I had had money, I would have bought a BMW.
    ถ้าฉันมีเงินนะ ฉันคงจะซื้อ BMW ไปแล้ว – เหตุการณ์คือไปมอเตอร์โชว์ตอนนั้น เงินร่อยหรอ ไม่อาจซื้อได้ แต่ตอนนี้มีเงินเป็นฟ่อน
จบบทเรียนการใช้ If Clause แล้ว ไปทำแบบฝึกหัดดูครับ

All Grammar Rules / แกรมม่าทั้งหมด 

BACK TO HOME/กลับไปหน้าหลักค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น