วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558

bio-illogical clock



"นาฬิกาชีวิต" เป็นนาฬิกาซึ่งถูกติดตั้งไว้ในร่างกายพร้อมกับการกำเนิดของมนุษย์ มันเป็นตัวตั้งเวลาตื่น เวลานอน เวลากิน เวลาขับถ่าย เวลาออกกำลังกาย เป็นตัวส่งสัญญาณบอกว่าถึงเวลาหาคู่ ตลอดจนบอกเวลาแห่งความเป็นความตายของมนุษย์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

 นาฬิกาเรือนนี้ออกแบบมาด้วยสุดยอดเทคโนโลยีนาโน ซึ่งควบคุมและประเมินผลด้วยกลไกที่เป็นอวัยวะ เริ่มเดินด้วยแรงสั่นสะเทือนครั้งแรกของหัวใจ โดยตั้งเวลาหยุดเดินไว้ที่ 100 กว่าปีหลังจากนั้น ไม่ใช่ 60 หรือ 70 อย่างที่เข้าใจกัน

กิจกรรมประจำวันมีความสอดคล้องกับกฏเกณฑ์เวลาของนาฬิกาชีวิต คุณต้องรู้ว่าควรจะทำอะไรบ้างใน 24 ชั่วโมง เพราะในทุก 2 ชั่วโมง พลังชีวิต (ลมปราณ) จะเคลื่อนผ่านอวัยวะที่แตกต่างกันไป รวม 12 ชนิด หมุนเวียนกันไปตามลำดับเวลาเหมือนนาฬิกา ดังนี้

01.00-03.00 น. พลังเคลื่อนผ่านตับ ควรนอนหลับพักผ่อน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ตับจะหลั่งสารเอนดอร์ฟิน และนี่ไม่ใช่เวลากินอาหาร ใครฝ่าฝืนกินเข้าไป ตับจะเสื่อมเร็ว เพราะตับมีหน้าที่ขับสารพิษออกจากร่างกาย มีหน้าที่รอง ได้แก่ ดูแลความงามของผม ขน เล็บ และช่วยหลั่งน้ำย่อยให้กระเพาะ ถ้ากินบ่อย ตับจะทำงานหนัก ทำให้หน้าที่หลักบกพร่องไป เป็นเหตุให้สารพิษตกค้างในตับ

03.00-05.00 น.   เป็นช่วงเวลาที่พลังไหลผ่านปอด จึงควรตื่นนอนขึ้นมาเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ และเตรียมตัวรับแสงแดดยามเช้า ผู้ที่ตื่นนอนช่วงนี้เป็นประจำ ปอดจะดี ผิวจะดี และเป็นคนที่มีอำนาจในตัว ด้วยน้ำเสียงที่ดังกังวาล ทำให้การสื่อสารมีอำนาจขึ้นอีกเยอะ แต่เวลานี้มนุษย์ทั้งหลายกำลังหลับไหล

05.00-07.00 น.   เป็นช่วงเวลาของการขับถ่ายโดยผ่านลำไส้ใหญ่ เราควรขับถ่ายให้เป็นนิสัยทุกเช้า มิฉะนั้นของเสียจะถูกระบายออกทางผิวหนัง

07.00-09.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร ถ้าเรากินอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ได้ทุกวัน กระเพาะก็จะแข็งแรง

09.00-11.00 น. เป็นช่วงเวลาของม้าม ห้ามนอนเด็ดขาด เพราะม้ามจะอ่อนแอ ม้ามมีหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน ผู้ที่นอนหลับในช่วงเวลานี้ จะปวดศรีษะ เจ็บชายโครง เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง ม้ามจะสร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย และถ้าม้ามชื้น อาหารและน้ำที่กินเข้าไปจะแปรสภาพเป็นไขมัน ทำให้อ้วนได้

11.00-13.00 น.   พลังปราณผ่านหัวใจ หัวใจจะทำงานหนัก จึงควรหลีกเลี่ยงเหตุแห่งความเครียด และการใช้ความคิดหนัก ต้องระงับความรู้สึกตื่นเต้นตกใจให้ได้

13.00-15.00 น.   เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก เราควรงดกินอาหารทุกประเภท เพื่อเปิดโอกาสให้ลำไส้ได้ทำงาน ลำไส้เล็ก มีหน้าที่ดูดซึมอาหารที่เป็นน้ำทุกชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินบี โปรตีน เพื่อนำกรดอะมิโนไปสร้างเซลล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างไข่สำหรับผู้หญิง ถ้ากรดอะมิโนมีน้อย ไข่จะมาไม่ครบทุกเดือน

17.00-19.00 น. เป็นเวลาของไต ควรจะทำตัวให้สดชื่น ผู้ที่ง่วงเวลานี้ แสดงว่ามีปัญหาเรื่องไตเสื่อม ถ้าอาการหนักมากจะนอนหลับและเพ้อ ไตซ้ายจะควบคุมสมองด้านขวาคือส่วนที่เป็นความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์สุนทรี รักสวยรักงาม ถ้าไตซ้ายมีปัญหา จะเป็นคนที่ไม่ดูแลตัวเองและจะขี้ร้อน ส่วนไตขวาควบคุมสมองด้านซ้าย เกี่ยวกับความจำ ถ้าไตด้านขวามีปัญหา ความจำจะเสื่อม เป็นคนขี้หนาว ถ้าไตแข็งแรง จะเป็นคนกล้าและอายุยืน

19.00-21.00 น. เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ ระวังเรื่องตื่นเต้นดีใจ หัวเราะ ที่จริงควรจะควบคุมอารมณ์ให้เป็นกลางๆ

21.00-23.00 น.   เป็บช่วงเวลาแห่งการเก็บพลังงาน ต้องทำร่างกายให้อบอุ่น ห้ามอาบน้ำเย็นหรือตากลม เพราะช่วงนี้ลมเป็นพิษ ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย

23.00-01.00 น. เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี ซึ่งเป็นถุงสำรองน้ำย่อยที่หลั่งออกมาจากตับ และเมื่ออวัยวะในร่างกายขาดน้ำ ก็จะดึงน้ำไปจากถุงน้ำดี ทำให้น้ำดีข้น เป็นผลให้อารมณ์ฉุนเฉียว สายตาเสื่อมลง เหงือกจะบวม ปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นตอนดึก จามตอนเช้า เพราะถุงน้ำดีจะโยงถึงปอด ปวดศรีษะข้างเดียวหรือสองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ อย่าใส่ชุดนอนที่เป็นผ้าใยสังเคราะห์ไนล่อน เพราะมันจะไปดูดน้ำในร่างกาย ควรใส่ชุดนอนที่เป็นผ้าฝ้าย ควรดื่มน้ำก่อนนอนเยอะๆ ควรนอนก่อน 23.00 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น