วันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2560

10 อันดับมหาวิทยาลัยด้านธุรกิจที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา


สำหรับคนที่เป็นนักเรียนมาตลอดชีวิต บรรยากาศในโลกการ ทำงานเปิดโลกใหม่ให้ชีวิตเราอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อย่างไร ก็ตาม การได้เรียนต่อในโรงเรียนระดับโลกกับคนเก่งๆจาก ทั่วทุกมุมโลกก็เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ไม่เป็นสองรองใคร เช่นกัน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจจะศึกษาต่อในมหาลัยติด อันดับต้นๆในอเมริกาแล้วล่ะก็ มหาลัยเหล่านี้เป็นมหาลัยที่ คุณต้องรู้จักและพิจารณาก่อนเลย
 
 1. Harvard

ที่ตั้ง: บอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์
ค่าเรียน: $63,675 ต่อปี
ทำไมต้องที่นี่: เป็นที่รู้กันว่าฮาเวิร์ดเป็นมหาลัยด้านธุรกิจที่มีชื่อเสียง
มากที่สุดในโลกและได้ผลิตบัณฑิตคุณภาพมาตั้งแต่ปี 1908 ที่นี่นักเรียนจะได้เรียนกรณีศึกษาในธุรกิจจริงๆ และได้อภิปรายกับเพื่อนร่วมห้อง ที่นี่เป็นที่ๆสร้างโอกาสให้เราได้งานในบริษัทที่ดีที่สุดของโลกได้ไม่ยาก
คุณสมบัติผู้สมัคร: คนที่มีความเป็นผู้นำ ความสามารถและกระหาย ในการคิดวิเคราะห์ และเป็นพลเมืองที่ต้องการทำเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง


2. Stanford


ที่ตั้ง: สแตนฟอร์ด รัฐแคลิฟอร์เนีย
ค่าเรียน $66,540 ต่อปี
ทำไมต้องที่นี่: มหาลัยนี้เป็นมหาลัยที่เข้ายากที่สุดโดยมีผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเพียง 4.7% เท่านั้นในปี 2016 ซึ่งนั่นแปลว่าคุณต้องเป็นคนที่ดีที่สุดเท่านั้นถึงจะผ่านเข้าไปได้ คอร์สของที่นี่มีความพิเศษตรง
ที่นักเรียนทุกคนจะต้องเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทริปสั้นหรือยาว กับนักเรียนคนอื่น ซึ่งเป็นส่วนนึงของโปรแกรม “Global Experience”
คุณสมบัติผู้สมัคร: จะต้องมีสติปัญญาโดดเด่น มีศักยภาพด้านการเป็นผู้นำ แสดงคุณสมบัติและการทำเพื่อผู้อื่นเฉพาะบุคคล



3. Duke (Fuqua)

ที่ตั้ง: สแตนฟอร์ด รัฐแคลิฟอร์เนีย
ค่าเรียน $63,200 ต่อปี
ทำไมต้องที่นี่: มหาลัยนี้เน้นหนักด้านการเป็นผู้นำเพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมต่อสังคมโลก ที่นี่มีสำนักงานอยู่ในหลายทวีปทั่วโลกซึ่งทำให้นักเรียนมีโอกาสใช้ประโยชน์จากความหลากหลายของที่
เรียนด้วย
คุณสมบัติผู้สมัคร: ผู้ที่สามารถเพิ่มคุณค่าที่มีนัยสำคัญและความหลากหลายให้กับโปรแกรม และแสดงศักยภาพของการเป็นผู้นำด้วย


4. University of Chicago (Booth)

ที่ตั้ง: ชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์
ค่าเรียน: $66,540 ต่อปี
ทำไมต้องที่นี่: ที่นี่เป็นหนึ่งในมหาลัยด้านธุรกิจที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกา ก่อตั้งเมื่อปี 1892 โปรแกรม Leadership Effectiveness and Development Programme (LEAD) ที่เลื่องชื่อเป็นการเน้นย้ำความสำคัญในด้านการเป็นผู้นำของผู้เรียน และยังเป็นหนึ่งในที่แรกๆที่มีหลักสูตรด้านนี้
คุณสมบัติผู้สมัคร: ผู้ที่มีความพร้อมด้านวิชาการ สนใจที่จะศึกษาเรื่องต่างๆเพิ่มเติมอยู่เสมอ และมีความสามารถในการสื่อสารที่ดี


5. Dartmouth (Tuck School of Business)



ที่ตั้ง: ฮาโนเวอร์ รัฐนิวแฮมเชียร์
ค่าเรียน: $66,390 ต่อปี
ทำไมต้องที่นี่: ดาร์ตมัธ เน้นมากในธุรกิจให้คำปรึกษา (consulting) โดยนักเรียนที่เรียนที่นี่จะมีโอกาสได้เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีคอร์สทางเลือกให้นักเรียนฝึกงานในตำแหน่งที่ปรึกษาให้กับบริษัทต่างประเทศอีกด้วยซึ่งจุดนี้จะช่วยให้แต่ละคนมีประสบการณ์โดยตรงกับวงการนี้แบบรู้ลึกรู้จริงยิ่งขึ้น
คุณสมบัติผู้สมัคร
: ผู้ที่มีผลการศึกษาที่ดีเยี่ยม มีความเป็นผู้นำ มีประวัติความสำเร็จมาบ้าง มีความสามารถในการสื่อสารกับคนอื่น มีพื้น หลังและประสบการณ์ที่หลากหลาย มีทัศนคติที่ซึมซับความรู้จาก

รอบโลกและนำมาปรับใช้ได้อย่างดี




6. University of Pennsylvania (Wharton)


ที่ตั้ง: ฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย
ค่าเรียน: $73,634 ต่อปี
ทำไมต้องที่นี่: เป็นโรงเรียนด้านธุรกิจระดับอุดมศึกษาแห่งแรกในอเมริกาซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1881 มีเอกให้เลือกเรียนถึง 18 สาขาและมีวิชาเลือกอีกกว่า 200 วิชา ทำให้นักเรียนสามารถเลือกเรียนเพื่อพัฒนาทักษะที่มุ่งหวังได้ตามความต้องการของแต่ละคน
คุณสมบัติผู้เรียน: ผู้สมัครที่เข้าเกณฑ์ต่างๆที่ทางมหาลัยกำหนด


7. MIT (Sloan)



ที่ตั้ง: เคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์
ค่าเรียน: $68,250 ต่อปี
ทำไมต้องที่นี่: ที่ MIT นี้มีสามสาขาให้นักเรียนได้เลือกเพื่อพัฒนาทักษะไปยังสายที่ตัวเองต้องการ ประกอบไปด้วย สายผู้ประกอบการและนวัตกรรม สายการเงิน และสายการจัดการกิจการ ซึ่งที่นี่จะเน้น
แง่มุมของการเป็นผู้ประกอบการโดยที่นักเรียนจะสามารถเข้าแข่งขันในการประกวดที่ทางมหาลัยจัดได้ และได้รับโอกาสที่จะร่วมงานกับบริษัทสตาร์ทอัพของที่นั่น เพื่อที่จะพัฒนาทักษะให้ดียิ่งขึ้น
คุณสมบัติผู้สมัคร: ผู้ที่มีความเป็นผู้นำที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจใส่ใจชุมชน มีความสนใจที่จะศึกษาเรื่องอื่นเพิ่มเติมอยู่เสมอและมีจุดแข็งในการวิเคราะห์ มีความคิดสร้างสรรค์และศักยภาพที่จะเติบโต


8. Rice University (Jones Graduate School of Business)



ที่ตั้ง: ฮิวสตัน เท็กซัส
ค่าเรียน: $53,000 ต่อปี
ทำไมต้องที่นี่: นักเรียนจะได้รับมือกับโปรเจ็คจริงๆตั้งแต่ทันทีที่เริ่มเรียนโดยที่พวกเขาจะต้องแก้ปัญหาและความท้าทายที่บริษัทต่างๆ ต้องเผชิญ
คุณสมบัติผู
้เรียน:ผู้สมัครที่เข้าเกณฑ์ต่างๆที่มหาลัยกำหนด


9. Northwestern University (Kellogg School of Management)


ที่ตั้ง
: อีแวนสตัน รัฐอิลลินอยส์
ค่าเรียน: $91,716 (หลักสูตรหนึ่งปี) หรือ $66,462 (หลักสูตรสองปี)
ทำไมต้องที่นี่: ที่นี่เน้นการพัฒนาผู้นำที่จะช่วยผลักดันการเติบโตให้คน องค์กร และในตลาดต่างๆด้วย 
คุณสมบัติผู้สมัคร: จะต้องมีสติปัญญาเฉียบแหลม มีความสามารถในการแก้ปัญหา มีทักษะความเป็นผู้นำ มีคุณค่าและแรงจูงใจในตัวเอง ร่วมกิจกรรมอื่นๆนอกเหนือจากการเรียน และมีความสามารถ ในการสื่อสารกับผู้อื่นได้ดี



10.  University of California Berkeley (Haas School of Business)



ที่ตั้ง: เบิร์กลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนียร์
ค่าเรียน: $61,713.50 ต่อปี
ทำไมต้องที่นี่: ที่นี่ให้ความใส่ใจเรื่องธุรกิจในระดับโลกซึ่งจะสามารถเห็นได้จากการเรียนรู้ในมิติต่างๆของโปรแกรมนี้ นักเรียนสามารถใช้เวลาหนึ่งภาคการศึกษาในต่างประเทศ ในการทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทต่างๆได้ด้วย
คุณสมบัติผู้สมัคร: ผู้สมัครที่ตอบโจทย์กับหลักการของมหาลัยดังนี้รู้จักตั้งคำถามสภาพที่กำลังเป็นอยู่เสมอ การตัดสินใจที่ปราศจาก อคติ เป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต และเป็นผู้ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมก่อนประโยชน์ส่วนตน 

การเรียนในมหาลัยเหล่านี้รับรองว่าเป็นเรื่องหินแน่ๆและค่าใช้จ่ายก็สูงแน่นอน แต่ว่าจากการสำรวจก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าสิ่งที่ผู้ เรียนจะได้ระหว่างเรียนและหลังจากจบไปแล้วจะต้องคุ้มค่ากับการทุ่มเทไป แต่การที่เข้ามหาลัยเหล่านี้ได้ ทักษะภาษาอังกฤษของคุณ ในทุกๆด้านจะต้องเป๊ะก่อน และคุณก็สามารถเริ่มพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณได้ ตั้งแต่วันนี้เช่นกัน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น